My top 2 drugstore mascara, my best 2 mascara สุดยอดมาสคาร่า 2 ตัวของเรา

มีมาสคาร่าอยู่สองตัวจากแบรนด์drugstore ที่เรายกให้เป็นสุดยอดมาสคาร่าของเราสำหรับปีนี้ 2015 สองตัวนี้เป็นสองตัวที่เราใช้แทนกันได้ หาซื้อได้ในเมืองไทยด้วย. ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกันมาก.

แต่ละคนมองหามาสคาร่าไม่เหมือน บางคนอาจจะเหมาะกับมาสคาร่าอีกแบบ บางคนอาจจะชอบอีกแบบ

สำหรับเราเองเวลามองหามาสคาร่าสักตัว ต้องมีข้อดีไม่กี่ข้อหลักๆก็คือ

1) ไม้่เลอะ ไม่ไหล ไม่แพนด้า

2) กันน้ำ กันฝน ร้องไห้แล้วไม่พัง

3) ล้างออกง่าย คือไม่ติดทนข้ามปีข้ามชาติ ขอแค่ใช้สบู่ล้างหน้า หรือแค่เช็ดเมคอัพรีมูฟเวอร์ออกก็พอ  พวกที่ติดทนจนต้องถูแล้วถูอีกกว่าจะออก แบบนี้ไม่ไหว ขนตาจะหลุดออกตามมาด้วยอะดิ

- ตัวแรกที่เราชอบที่สุดตอนนี้ ก็คือ มิสทีน ไอรอนเคิร์พ mistine iron curve

ไม่น่าเชื่อมาสคาร่าตัวนี้ราคาร้อยกว่าบาท ไม่เลอะ ไม่ไหล ไม่แพนด้า ไม่ทำให้ขนตาตก คือดัดขนตาแล้วปัดมาสคาร่าตัวนี้ก็จะงอนอยู่ได้ทั้งวัน แถมทำให้ขนตาดูหนาและยาวขึ้นอีกด้วย

- ตัวที่สอง ชอบรองลงมาก็คือ เมลเบลลีน บิ๊กอายส์ 

ตัวนี้ราคาสามสี่ร้อยบาท 

ชอบที่มีแปรงสองขนาดมาด้วย

ขนาดใหญ่ใช้ปัดขนตาบน

ขนาดเล็กใช้ปัดขนตาล่าง ซึ่งมันเหมาะมาก แปรงเล็กนี่ดีนะ ปัดได้ทั่วถึงดี

กันน้ำกันฝน ไม่เลอะ ไม่ไหลไม่แพนด้า

ทั้งสองตัวติดทนทั้งวัน

ขนตาหดูหนาและยาวขึ้นด้วย 

ในภาพเราปัดแค่ครั้งเดียว ก็ดูหนาแล้ว

Covergirl clean makeup foundation review รองพื้นคัพเวอร์เกิร์ล คลีนเมคอัพ

วันนี้ขอรีวิวรองพื้นตัวนี้ของ คัพเวอร์เกิร์ลให้ดูกัน
รองพื้นตัวนี้ชื่อ covergirl clean makeup foundation
สีที่เรามีคือ 105 ivory

มาเป็นขวดแก้วแบบนี้ เป็ขวดแบบเท ไม่มีปั้มกดมาด้วย

สี 501 นีค่อนข้างขาวมากเลยแหละ ไหนๆซื้อมาแล้วก็ลองดูหน่อยละกัน

เนื้อรองพืนเหลวๆ ไม่ข้นเหนียว

เราใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบีบให้แห้ง เกลี่ยรองพื้น

ก็เกลี่ยนะ แห้งเร็ว แต่กลิ่นรองพื้นบอกตรงๆว่ากลิ่นแรง 

เกือบจะเหม็นเลยทีเดียว

พอเกลี่ยเสร็จ รองพื้นก็แห้ง เนียนดี ไม่หนา ดูไม่โบ๊ะ

เป็นรองพื้นบางๆ แห้งๆ เราว่าไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง  น่าจะเหมาะกับคนผิวมัน หรือผิวผสมมากกว่า

ควมมรู้สึกเหมือนทาน้ำเลยอ่ะ

โดยรวมถือว่าโอเค

ส่วนตัวเรา ไม่ชอบนะ เราว่ามันบางไป แห้งไป

เราชอบรองพื้นที่ยังให้ควมมชุ่มชื้นกับผิวมากกว่านี้

รองพื้นตัวนี้ไม่ช่วยปกปิดรอยด่างดำเท่าไหร่นะ เพราะมันบางมาก 

อาจจะต้องทาต้องทาทับหลายๆชั้นเพื่อให้ปกปิดมากขึ้น แต่ก็ต้องรอให้ชั้นแรกแห้งก่อนนะ ค่อยทาทับชั้นที่สอง  แต่ถ้าใครที่ผิวดีอยู่แล้ว ต้องการรองพื้นบางๆ ละก็ตัวนี้เหมาะเลย

Monistat chafing relife โฉมใหม่ กล่องใหม่สูตรเดิม

เมื่อวานไปวอลมาร์ท จะไปซื้อ monistat chafing relife ซะหน่อย พอดีของเดิมหมดแล้ว ไม่ได้ซื้อซะนาน

มาเจออีกทีเขาเปลี่ยนแพคเกจแล้ว 

ข้างกล่องเขาเขียนเอาไว้ว่า ลุคใหม่แต่สูตรเดิม  แล้วเปลี่ยนทำไมหว่า!!??

หลอดนึงเราใช้ได้ทั้งปีเลยนะ อายุการใช้งานก็ประมาณสองปี  ถ้าเพื่อนๆใช้ไม่หมดภายในสองปีก็อย่าเสียดายเลย ทิ้งไปแล้วซื้อใหม่ดีกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะ

เมื่อวานเราซื้อมาหลอดนึงตามรูปข้างล่าง

ลักษณะเจลก็ยังเหมือนเดิม ใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นน้ำหอม ลื่นๆ

จริงๆ แล้วเจ้าตัว monistat chafkng relife นี้ เขาทำมาเพื่อ ทาขาหนีบเพื่อไม่ให้แสบเวลาขาทูกัน

ลดรอยแดงบนผิวหลังจากการแวกซ์ขน หรือโกนขน ลดการเสียดสีของผิว

เราใช้เจ้า monistat แทนไพร์เมอร์  (face primer) ซึ่งราคาอาจจะถูกกว่า ไพร์เมอร์แบรนด์ดังๆ แล้วยังใช้ดีอีกด้วยนะ

ถ้าใครต้องการให้หน้าออกมาไม่มัน ได้ลุคหน้าแมท แนะนำให้ใช้ monistat ทาก่อนทารองพื้น

จากที่เราใช้มานานแล้ว ตัวนี้ทำให้หน้าดูไม่มันจนเงาวับ ในรูปอาจดูไม่ออกว่าช่วยให้หน้าไม่มันยังไง แต่มันช่วยได้จริงๆ   หน้าเราก็ยังมีเหงื่ออยู่บ้าง  ก็ยังต้องมีซับหน้าอยู่

แต่พอเราใช้ monistat ตัวนี้แล้ว ทำให้เราซับหน้าน้อยลง 

นอกจากนี้ยังทำให้หน้าเราดูเนียนขึ้นด้วย

วิธีล้างแปรงแบนของเรา this is how i wash my angle brush

แต่ละคนก็มีวิธีล้างแปรงแต่งหน้าแตกต่างกันไปวันนี้เรามีวิธีที่เราล้างแปรงของเรามาแชร์ วิธีนี้เราล้างแปรงของเรามาตลอด สะอาดดี ขนแปรงก็ไม่เห็นจะหลุด แปรงตัวนี้อยู่กับเรามาเกือบสิบปีแล้ว ไม่มีทีท่าจะพังสักที เราไม่ได้บอกว่าที่เราทำผิดหรือถูกนะ แค่อยากแชร์ว่าที่เราทำมันทำความสะอาดได้ดีที่เดียว

มาดูกันว่าเราทำยังไง

เราใช้สบู่ก้อน

ทำสบู่กับแปรงให้เปียกโดยใช้น้ำอุ่น (ก้อกน้ำที่บ้านเราปรับอุนภูมิให้อุ่นได้) น้ำเย็นก็ใช้ได้แต่เรารู้สึกว่าน้ำอุ่นทำความสะอาดได้เร็วกว่า

ถูแปรงบนก้อนสบู่ที่เปียกเบาๆ

ถูไปเรื่อยๆจนคราบต่างๆหลุดออกมา

ถูผ่านน้ำ

แล้วก็ล้างน้ำออกให้หมด

ซับให้แห้งแล้วก็ผึ่งให้แห้งสนิทก่อนเก็บ

แค่นี้เอง แปรงเราก็สะอาดไม่ต้องพึ่ง น้ำยาล้างแปรงแพงๆเลย

วิธีที่เราล้างบิวตี้ เบล็นเดอร์ this is how i wash my beauty blender sponge

เราใช้ฟองน้ำเกลี่ยรองพื้นทุกวัน ชอบที่มันเกลี่ยรองพื้นได้บางดี  เราเองก็ล้างทุกวันด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรคหมักหมม

วันนี้เรามีวิธีที่เราล้างฟองน้ำของเรามาแชร์

1) อันดับแรกนำฟองน้ำที่สกปรกมาทำให้เปียกก่อน

2) เราใช้สบู่เหลวบีบลงบนฟองน้ำ สบู่เหลวหรือเจลที่เราใช้เป็นชนิดที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย จากนั้นก็ถูๆ

3) ล้างออกด้วยนำ้สะอาดอีกที

4) ควรบีบฟองน้ำระหว่างที่ล้างด้วย หลายๆครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าสบู่เหลวถูกล้างออกหมด

5) เมื่อล้างสบู่เหลวออกหมดดีแล้วก็บีบน้ำออกให้แห้ง

6) เสร็จแล้วก็จะได้ฟองน้ำที่สะอาดเหมือน ใสกิ๊ก พึ่งลมให้แห้ง ต้องให้แห้งจริงๆก่อนเก็บนะ ไม่งั้นแบคทีเรียก็ตามมาแน่เลย

แค่นี้เองวิธีทำความสะอาดฟองน้ำของเรา

มาสคาร่า เมลเบลลีน เดอะแมกนั่มวอลลุ่มเอกซ์เพรส maybelline the magnum volumeexpress

วันนี้อยากจะมารีวิวมาสคาร่าตัวนี้ของเมเบลลีนให้ดูกัน

ชื่อเต็มของมันก็คือ maybelline the magnum volume express 

เมเบลลีนขายที่บ้านเราตัวนี้มีสองสี คือสีดำ กับสีน้ำตาล  เราเลือกสีน้ำตาลมาลองให้ดูกัน. ราคาประมาณสองร้อยกว่าๆ หาซื้อง่าย บิ้กซี โลตัสหรือวัตสันก็มีขาย. หรือจะซื้อออนไลน์จากเมเบลลีนเมืองไทยโดยตรงก็ได้ด้วยนะ

ทาให้ดูเลยละกัน

ตัวนี้กันน้ำกันฝนไม่เลอะไม่แพนด้า

- เรื่อง volume เราว่าก็ทำให้ขนตาหนาขึ้นนิดหน่อย ลักณะคือไปเคลือบขนตา ให้สีเข้มขึ้น รู้สึกได้ว่าไม่ได้มี ไฟเบอร์ หรืออะไรที่เข้าไปเสริมให้ขนตาหนาขึ้น. ถ้าเทียบเรื่องความหนาของขนตาที่ได้จากเมเบลีนบิ๊กอาส์มาสคาร่า เราว่าตัวเมเบลีน บิ๊กอายส์ ให้ขนตาที่หนากว่าเยอะ เวลาทาเรารู้สึกว่าเนื้อผลิตภัณฑ์มันไปกองส่วนใหญ่ที่ขนตา โคนขนตาก็เลยเข้มกว่าปลายขน ทำให้ดูหนาขึ้น 

-เรื่องความเลอะ ตัวนี้ไม่เปื้อนไม่แพนด้า ไม่ไหล จะร้องไห้ จะตากฝนก็ไม่เลอะ เวลาขยี้ตาแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรหลุดร่วงลงมา ไม่เหมือนมาสคาร่าบางรุ่นของเมลเบลีนที่ทำให้ขนตาหนาตั้งแต่โคนถึงปลายแต่เวลาขยี้ตาก็หลุดร่วง เป็นผงๆ ต้องคอยปัดออก

-ส่วนเรื่องความงอนของขนตา  ไม่แน่ใจว่ามาจากแปรงหรือสูตรของมาสคาร่าเองตัวนี้ขนตางอนมาก ในภาพเราดัดขนตาก่อนแล้วปัดมาสคาร่า ก่อนเราก็ดัดมันงอนอยู่แล้ว พอปัดมาสคาร่ายิ่งทำให้งอนขึ้นไปอีก เรารู้สึกว่าขนตาเราติดกับหนังตาบนเวลาเรายิ้มเลยอ่ะ  งอนนานทั้งวันเลย เราใช้ตอนเช้า พอเย็นมาก็ยังงอนอยู่เลย

สรุป

ถือว่ามาคาร่าตัวนี้ของเมเบลีนก็ไม่แย่นะ

เหมาะกับวันที่ต้องการขนตาสีเข้มขึ้น ไม่หนาเวอร์ เหมาะกับลุคกลางวัน แต่งหน้าแบบเบาๆ คลีนๆ ตัวนี้เหมาะ  

แต่ว่าถ้าต้องการลุคกลางที่ดราม่ามากๆ เราว่าตัวนี้จะเบาไป 

Brown Smokey Eye Tutorial วิธีแต่งตาสโมกกี้ น้ำตาลบรอนซ์ ลุคกลางวัน

วันนี้เรามีวิธีแต่งตาสโมกกี้ แบบสีน้ำตาลทองบรอนซ์มาฝาก

ใครมีพาเลทนู๊ดอะไรก็ใช้ด้ ขอให้มีสีน้ำตาลทั้งแบบชิมเมอร์ทั้งสีด้าน แต่งตามได้ง่ายมาก

1)  แรกเลยมาเขียนคิ้วกันสักหน่อย

ในภาพเราใช้ in2it waterproof eyebros color สี ER01 

เราเคยเห็นในวัตตสันว่าอินทูอิทเขาทำออกมาสองสีนะ  สี ER01ที่เรามีเป็นสีเข้ม กว่า ER02 

 ในตลับมี สามสี อยากอ่อนอยากเข้มก็ผสมเอาตามใจได้เลย

2) รองพื้นตา เพื่อให้อายแชร์โดว์ติดทนนานขึ้น ไม่ตกร่อง ไม่ไหล

Eyeprimer ที่เราใช้คือ too faced shadow insurance หลอดเขาใหญ่มากเลย

ใช้มาตั้งนานจนหลอดสภาพแก่มากแล้ว ยังไม่หมดหลอดเลย

3) ลงสี transaction ที่ซอกตา ปัดไปปัดมาแบบที่ปัดนำฝน

การที่เราลงสี transaction จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อของสีอื่นที่เราจะลงต่อจากนี้เพื่อให้ดูสีกลมกลืนขึ้น

สีที่เราใช้เป็นสีน้ำตาลส้ม  ของ 4U2 สี dark chocolate

4) เราใช้สีที่ 5 จากอายแชร์โดวพาเลท ของ wetnwild fergie milano collection 

เป็นสีนำตาลทองที่มีชิมเมอร์ปนอยู่

ใช้แปรงแบนแพคลงที่เปลือกตา ทาอย่าให้เกินร อยพับของเปลือกตา

5) เราใช้สี 6  จากพาเลทเดียวกัน เป็สีน้ำตาลปนเทาอ่อน ทาลงรอยพับเปลือกตา  

ปัดไปปัดมาเหมือนที่ปัดน้ำฝน  เกลี่ยไปจนสีกลมกลืน 

ทาลงมาที่ขอบตาด้านล่างด้วย ทายาวลงมาแต่อย่าเกินลูกตาดำ เกลี่ยอีกเช่นกัน

6) ใช้สีที่ 8  จากพาเลทเดียวกัน เป็นสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาหน่อย ทาที่หางตา แล้วก็ขอบตาด้านล่าง

7) ใช้แปรงพุ่ม แต่อายแชร์โดว์สีน้ำตาลส้ม ของ 4U2 this&that สี dark chocolate ปัดเปลือกตาด้านบนสุด

ที่เป็นรอยพับกับโหนกคิ้ว ปัดบางๆ เพื่อให้สีเชื่อ ต่อกัน

8) ใช้สีที่ 2 ของพาเลทเดียวกัน เป็นสีชมพูเหลืองๆ วิ้งๆ ทาโหนกคิ้วเพื่อเป็นไฮไลท์

ทาที่หัวตาด้วยอีกนิด เพื่อความวิ้งเบาๆ

9) ดัดขนตาให้งอน แล้วปัดมาสคาร่า

มาสคาร่าที่เราใช้ชื่อ maybelline the fase lash volume express ปัดให้ทั่วทั้งขนตาบนและล่าง

ส่วนใครจะเติมขนตาปลอมเพิ่มเขาไปก็ได้  ส่วนเราแค่นี้พอแล้ว  

แค่นี้ก็ได้สโมกกี้อายแบบกลางวันที่สามารถออกบ้านได้จริง ไม่ดูน้อยไป ไม่ดูมากไป 

รีวิวอายไลน์เนอร์เร่งขนตายาว physician formula eyeliner eyebooster 2in1 lash serum

มีอายไลเนอร์ตัวนึงอยากแชร์ 

ความพิเศษของมันคือเป็นอายไลน์เนอร์แล้วยังเป็นเซรั่มเพิ่มเร่งขนตาให้ยาวและหนาขึ้นด้วย ประมาณว่าปลูกขนตา ว่างั้น

นั่นก็คือ

Physician formula eyebooster 2-in-1 lash boosting eyeliner + serum 24 hour wear

ชื่อยาวมาก

ตัวนี้ประมาณ300กว่าบาท มาในกล่องแบบนี้

ด้านหลังกล่องมีเขียนไว้ว่ามากกว่า72% ของผู้ใช้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของขนตาภายในสองอาทิตย์

มากกว่า90% เห็นความเปลี่ยนแปลงภายในสี่อาทิตย์

เราใช้มานานแล้ว เราเองขนตายาวอยู่แล้ว ไม่รู้จริงๆว่ามันเพิ่มขนตาให้เราหรือเปล่า บอกยาก

มาคุณสมบัติอื่นกันบ้าง 

ลักษณะเป็นอายไลเนอร์แบบน้ำ ปลายเป็นพู่กัน ปลายเล็ก ไม่ใหญ่ เขียนหางได้สวย

จะเขียนเส้นเล็กเส้นใหญ่ก็ง่ายเราว่า

แห้งเร็วดี พอเราทาปุ๊ปก็แห้งเลย ไม่ต้องรอ

เราลองทดสอบกับน้ำ เปิดน้ำจากก้อกให้ไหลผ่านสักพัก ปรากฎว่าก็ไม่หลุดลอกออกนะ ถือว่ากันน้ำระดับนึง

หลังจากนั้นเราก็ใช้มือถูๆ ถูอยู่หลายรอบก็มีหลุดออกมาบ้าง แต่โดยรวมอายไลเนอร์ก็ยังติดอยู่. ถือว่าติดทน. กระพริบตาก็หรือขยี้ตาก็ไม่น่าหลุด

ลองเขียนที่ตาให้ดู

เขียนง่าย ไม่เลอะไม่ไหลไม่แพนด้า แห้งเร็ว

ส่วนตัวเราว่าเนื้ออายไลเนอร์แบบนี้ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับของอินทูอิท รุ่นที่ปลายพู่กัน ใกล้เคียงกันมาก ต่างตรงที่ของอินทูอิท ไม่ได้เป็นเซรั่มเร่งขนตา ถ้าใครชอบอินทูอิทตัวนั้นเราว่าน่าจะชอบของ physician formula ตัวนี้แน่เลย

สรุปคุณภาพดีแถมยังเป็นเซรั่มเพิ่มขนตาให้ยาวและหนาขึ้นด้วย. ราคาอาจจะไม่ถูกนักสำหรับสินค้าแบรนด์ drugstore  ส่วนตัวแล้วเราว่าใช้ดีนะ เขียนง่าย สวยดี เพื่อนๆไปลองดูละกัน