Monday, September 26, 2016

อายุเยอะขึ้นใช้ครีมลดริ้วรอยอะไรดี รีวิว ครีมลอรีออล L'Oreal wrinkle expert day and night moisturizer



สวัสดีค่ะ 
เพื่อนๆสบายกันดีนะคะ
สำหรับวันนี้เรามีผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยที่เราใช้มาได้สองสามเดือนแล้วรู้สึกว่าทำให้ผิวหน้าของเราดูดีขึ้นดูมีความชุ่มชื้นมีความเด้งเพิ่มขึ้นมา อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้ครีมตัวนี้ให้เพื่อนๆฟัง

สำหรับตัวเราเองตอนนี้อายุก็เกิน 35 มานิดหน่อยแล้ว เราเองเริ่มที่จะใส่ใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์มาดูแลริ้วรอยบนผิวหน้าเราได้ลองใช้ครีมต่างๆที่บอกว่าสามารถลดริ้วรอยได้มาก็หลายตัวแล้ว

จนวันหนึ่งเราได้มาเจอกับครีมตัวนี้ของ ลอรีอัล ราคาก็ไม่แพงซึ่งเราซื้อจากร้าน Walmart ที่อเมริกาอยู่ที่ราคาประมาณ 10 เหรียญสหรัฐตกเป็นเงินไทยประมาณ 350 บาทซึ่งถือว่าเป็นราคาปกติไม่สูงมาก
ครีมรุ่นนี้ทำออกมาสีรุ่นด้วยกันนั่นก็คือสำหรับคนอายุ 25 ขึ้นไป 35 ขึ้นไป 45 ขึ้นไปและสุดท้าย 55 ขึ้นไป
ซึ่งแต่ละสูตรก็จะไม่เหมือนกัน

1) สำหรับคนอายุ 25 ขึ้นไปเป็นสูตร hyaluronic acid




2) สำหรับคนอายุ 35 ขึ้นไปเป็นสูตร collagen



3) สำหรับคนอายุ 45 ขึ้นไปเป็นสูตร Retino Peptide



4) สำหรับคนอายุ 55 ขึ้นไปเป็นสูตร calcium



เราเองเลือกมาสองสูตรนั่นก็คือสูตรสำหรับคนอายุ 35 ขึ้นไป ซึ่งเป็นกระปุกสีฟ้าอ่อน กับอีกกระปุกนึงที่ซื้อมาด้วยก็คือสำหรับคนอายุ 45 ขึ้นไปซึ่งเป็นกระปุกสีแดง 


ทั้งสองกระปุกมีครีมลักษณะสีขาวคนกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายๆกับกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ เมื่อใช้แล้วรู้สึกสดชื่น 



ส่วนตัวแล้วเราชอบที่จะใช้ตัว 35+ มากกว่า เพราะให้ความรู้สึกชุมชื่นกับผิวมากกว่าอีกตัวหนึ่งเนื่องจากว่าเราอยู่ที่อเมริกาอากาศค่อนข้างหนาวครีมตัวนี้นอกจากจะช่วยลดริ้วรอยแล้วยังให้ความชุ่มชื่นผิวหน้าไม่มีแตกรายงา ขุยๆที่เคยมีก็หายไปนะ เราใช้ทาทั้งเช้าและก่อนนอนเวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้าเราเองรู้สึกว่าเวลาล้างหน้าผิวหน้าดูนิ่มนิ่มล้างหน้าลื่นขึ้น ส่วนในเรื่องของการลดริ้วรอยนั้นเราเองไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เพราะว่าเราไม่ได้มีริ้วรอยที่ดูลึกหรือหนาเท่าไหร่นัก แต่ในเรื่องของการทำให้หน้าชุมชื่นมีความเต่งตึงขึ้นเราว่าครีมตัวนี้ใช้ได้ทีเดียว

ส่วนครีมตัว 45+ ตัวนี้ค่อนข้างบางๆ ไม่ค่อยให้ความชุ่มชื้นกับผิวเราสักเท่าไหร่ แต่ไม่ได้แปลว่าครีมตัวนี้ไม่ดีดี เค้าออกแบบมาสำหรับคนอายุ 45 ขึ้นไป มันอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ 

สำหรับเราเองคิดว่าจะใช้ครีมตัว 35+ ต่อไปเพราะว่าชอบมากแล้วก็เหมาะกับผิวเราส่วนเพื่อนเพื่อนจะเหมาะกับครีมตัวไหนคงต้องลองใช้กันดูใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้างเขียนมาบอกกันบ้างนะ

Wednesday, September 21, 2016

วิธีล้างเจลอายไลน์เนอร์ที่เหนียวติดทนนาน ให้ออกได้ง่ายสะดวกรวดเร็ว ในแบบของเรา


เราเป็นอีกคนนึงที่ชอบใช้อายไลน์เนอร์เขียนขอบตา จะทำให้ตาเราดูมีขนตาหนาขึ้น หนึ่งในอายไลน์เนอร์ที่ทำให้ตาดูคมชัดก็คือพวกเจลไลน์เนอร์ พวกนี้นี่จะติดทนและล้างออกยากมาก คือจะใช้เจลล้างหน้าธรรมดาไม่มีทางจะล้างออกได้หมด ในบางทีเราอาจจะต้องถูแรงๆเพื่อให้ออก


หลายๆคนก็จะมีวิธีที่จะล้างอายไลน์เนอร์แตกต่างกันออกไป เราเองก็ใช้มาหลายวิธี ลองมาหลายผลิตภัณฑ์แล้วเหมือนกัน วันนี้เราจะมาบอกวิธีที่เราล้างอยู่ประจำมาบอกกัน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกกับเราแล้วก็ล้างออกได้ดี และง่ายๆด้วยนั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า cleansing oil คลีนซิ่ง ออยล์ 


ซึ่ง คลีนซิ่ง ออยล์ในตลาดที่เขาขายๆกันก็มีหลายๆแบรนด์ หลายๆญี่ห้อ สำหรับวันนี้เราจะพูดรวมๆละกัน วิธีการใช้เราจะใช้พร้อมกันเวลาจะอาบน้ำ ขณะที่หน้ายังแห้งอยู่ก็ใช้ คลีนซิ่ง ออยล์นวดลงไปที่หน้า ลักษณะก็คือน้ำมันนี่เอง นวดหน้าไปเรื่อยๆ เครื่องสำอางจะละลายออกมา ทั้งอายไลนเนอร์ ทั้งมาสคาร่าที่เหนียวๆ ที่ว่าติดทนนาน เจอคลีนซิ่งออยเข้าไปก็หลุดหมดนะ ส่วนจะนวดหน้านานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละญี่ห้อแล้วแต่เพื่อๆจะเลือกใช้  พอนวดจนพอใจแล้วก็ล้างน้ำออก เราก็อาบน้ำไปด้วยทีเดียวเลย

เราชอบใช้คลีนซิ่งออยล์ในการล้างที่สุดเพราะว่าสะดวกดี ล้างเครื่องสำอางออกได้ดีมาก ขั้นดีมากจริงๆ ไม่ต้องใช้สำลีมาเช็ดถู ส่วนตัวเราคิดว่ายิ่งถูยิ่งดึงรอบดวงตามากเท่าไหร่ยิ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยกับผิวเราเร็วมากขึ้นเท่านั้น เราเลยเลืออะไรที่อ่อนโยน ไม่ต้องถู ไม่ต้องเช็ดมาก ก็น่าจะดีกว่า

ส่วนคลีนซิ่งออยล์ตัวโปรดของเรามีอยู่ 2 ตัว ตัวแรก คือ DHC ตัวนี้ขวดใหญ่ พันกว่าๆ ชอบตรงที่มันละลายเครื่องสำอางได้รวดเร็วจริงๆ 


ส่วนตัวที่สอง เป็นของ Z.A ซีเอ ขวดเล็กกว่า DHLหน่อย ขวดละ 200-300 บาท หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป โลตัสก็มี
ความรวดเร็วใกล้เคียงกับ DHL 
ตอนนี้เราก็ใช้ทั้งสองตัวนะแหล่ะ ตัวไหนหมดเราก็เอามาใช้แทนกัน


จริงๆไม่ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ ใช้น้ำมันมะพร้าวล้างก็ออกนะ แต่ต้องเช็ดออกแทน เพราะน้ำมันมะพร้าวไม้ได้ละลายน้ำเหมือนกับคลีนซิ่งออยพวกนี้ เราเองไม่อยากเช็ดหน้า อยากจะเลี่ยงเลี่ยงการเช็ดถูที่หน้าเพื่อให้เกิดริ้วรอยให้น้อยที่สุดเราก็เลือกที่จะใช้คลีนซิ่งออยซะมากกว่า

ก็อย่างที่บอกว่านี่คือวิธีล้างอายไลน์เนอร์ในแบบของเรา อาจจะไม่ถูกกับไลฟ์สไตล์กับทุกคนได้ ก็แล้วแต่ความชอบแต่ละคน สภาพผิวของแต่ละคนด้วย แล้วเพื่อนๆล่ะมีวิธีไหนกันบ้าง เขียนบอกกันบ้างนะ 





Wednesday, September 7, 2016

รีวิว มาสคาร่า ริมเมล review mascara rimmel london scandal eyes volume flash


วันนี้เรามีมาสคาร่าที่เราซื้อมาใช้ตัวนึงเป็นของ rimmel london รุ่นนี้ชื่อ volume flash scandal eyes waterprooof mascara สาเหตุที่ซื้อตัวนี้มาเพราะว่าเราได้คูปองส่วนลดมา เลยอยากลองของใหม่ซื้อมาใช้ เพราะว่าเห็นที่ตัวเพจเกจว่าทำให้ขนตาหนาขึ้น เรายิ่งรีบสอยมาใช้เลย
ราคาที่ขายอยู่ที่อเมริกาก็ประมาณ $5-$6

ลักษณะก็เป็นหลอดพลาสติคสีส้มขนาดโตๆ 


ใช้มาอาทิตย์นึงแล้ว ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ สิ่งแรกที่ทำให้เรางงจนถึงทุกวันนี้ก็คือ แปรงจะใหญ่ไปไหน..... มันใหญ่มาก...... ที่เห็นในรูปอาจไม่ชัดเจน แต่อยากบอกว่าแปรงมันโตมากจริงๆ ถ้าเวลาใช้ไม่ระวัง เปื้อนหน้า เปื้อนหนังตา เปื้อนโหนกคิ้วแหงๆ 


เราไม่รู้สึกว่ามันทำให้ขนตาเราหนาขึ้นนะ เรารูสึกว่าแค่มันทำให้ขนตาเรามีสีดำก็เท่านั้น เรื่องทำให้ขนตายาวขึ้นนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอน เนื่องจากรุ่นนี้เป็นรุ่นกันนำ้ก็เลยกันน้ำได้ดี ไม่มีเปื้อนเป็นแพนด้า ล้างออกได้ดีไม่ยาก ไม่ง่าย ถ้าใช้แค่เจลล้างหน้าก็ออกอยู่นะ แต่ต้องถูไปถูมาสักนิดนึง 

เราว่ามาสคาร่าตัวนี้ให้ลุคเบาๆ ในวันใสๆมากกว่า สำหรับที่ต้องการขนตาดูหนาๆ ยาวๆ เป็นแพๆ คงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แต่ยังไงซื้อมาแล้ว เราก็จะใช้ต่อไปจนกว่ามันจะหมดหลอดน่ะแหล่ะ