ครีมกันแดดในตลาดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆก็คือ
1) physical
2) chemical
1) physical
2) chemical
ซึ่งเจ้าสองตัวนี้ต่างกันตรงที่ครีมกันแดดแบบ physical นั้นใช้สารกรองแสงแบบกายภาพ ขณะที่กันแดดประเภท chemical นั้นใช้สารกรองแสงจำพวกสารเคมี แต่บางแบรนด์ก็จัดเต็ม ใช้ส่วนประกอบของทั้ง physical และ chemical ในครีมกันแดดตัวเดียวกันเลยก็มี
โดยประเภทแรก (physical ) นั้นใช้วิธีกันแดดโดยการสะท้อนและบล็อครังสียูวีจากแสงแดด
ส่วนประเภทหลัง (chemical) นั้น จะทำการดูดซึมรังสียูวีจากแสงแดดมากักเก็บไว้ ไม่ยอมให้ผ่านไปทำร้ายผิวหนัง ซึ่งในบางผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารกรองแสงแบบ chemical ใช้การกระจายรังสียูวีออกไปแล้วจึงกักเก็บ แต่ส่วนใหญ่ใช้แบบดูดซึมธรรมดา
ส่วนประเภทหลัง (chemical) นั้น จะทำการดูดซึมรังสียูวีจากแสงแดดมากักเก็บไว้ ไม่ยอมให้ผ่านไปทำร้ายผิวหนัง ซึ่งในบางผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารกรองแสงแบบ chemical ใช้การกระจายรังสียูวีออกไปแล้วจึงกักเก็บ แต่ส่วนใหญ่ใช้แบบดูดซึมธรรมดา
ท้ายสุดแล้วผลลัพธ์การป้องกันนั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ก็กันแดดได้ทั้งสองประเภทนั่นแหล่ะ
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสารกันแดดที่เราใช้เป็นประเภทไหนให้เพื่อนๆดูส่วนผสม คือถ้าไม่มีส่วนผสมของ Zinc oxide หรือ Titanium dioxide แล้วก็ให้ตีว่าเป็นครีมกันแดดแบบ chemical นั่นเองค่ะ ส่วนจะเลือกแบบไหนนั้นก็ต้องตามใจเลยค่ะ แต่สำหรับสาวๆ ที่ไม่อยากเพิ่มสารเคมีเข้ามาในวิตประจำกัน ก็ควรเลือกแบบ physical เพราะสารที่ใช้นั้นจะไม่ดูดซิมเข้าผิวเรา เพียงแต่จะเกาะอยู่บนผิวหนังเท่านั้น
เพื่อนสามารถคลิคที่นี่เพื่อดูวิธีการทำครีมกันแดดได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสารกันแดดที่เราใช้เป็นประเภทไหนให้เพื่อนๆดูส่วนผสม คือถ้าไม่มีส่วนผสมของ Zinc oxide หรือ Titanium dioxide แล้วก็ให้ตีว่าเป็นครีมกันแดดแบบ chemical นั่นเองค่ะ ส่วนจะเลือกแบบไหนนั้นก็ต้องตามใจเลยค่ะ แต่สำหรับสาวๆ ที่ไม่อยากเพิ่มสารเคมีเข้ามาในวิตประจำกัน ก็ควรเลือกแบบ physical เพราะสารที่ใช้นั้นจะไม่ดูดซิมเข้าผิวเรา เพียงแต่จะเกาะอยู่บนผิวหนังเท่านั้น
เพื่อนสามารถคลิคที่นี่เพื่อดูวิธีการทำครีมกันแดดได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ
No comments:
Post a Comment