Monday, February 9, 2015

วิธีทำครีมกันแดดแบบกายภาพอย่างง่าย DIY PHYSICAL SUNSCREEN SUPER EASY

วิธีทำครีมกันแดดแบบกายภาพอย่างง่าย  DIY PHYSICAL SUNSCREEN SUPER EASY
ทุกวันนี้เราใข้สารเคมีในชีวิตประจำวันมากมายเหบือเกิน สารเคมีเหล่านี้บ้วนเป็นส่วนผสมอยู่ในเครื่องสำอาค์ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นตรีมทาหน้า  ยาสระผม ยาสีฟัน
ในต่างเทศหลายประเทศให้ความรู้กับคนของประเทศเขาว่าสารตัวไหนเป็นอันตรายแค่ไหน สารตัวไหนเป็นสารก่อมะเร็งบ้าง

เป็นที่น่าเสียดายที่บ้านเรากลับไม่มีการให้ความรู้เรื่อวนี้บ้างเลย
เข่นสารกันบูดประเภทพาราเบนตัวนี้ก็อันตราย เป็นสารก่อมะเร็ง แค่บ้านเราไม่ผิดกฎหมายใดๆ ทำให้ผู้ผลิตยังคงใช้สารกันบูดตัวนี้อยู่ เพราะพาราเบนราคาถูกเมื่อกับสารกันบูดตัวอื่นๆในตลาด
ทางเลือกของสาวๆยุคดูแลตัวเองสมัยนี้ก็เลยต้องหันกลับมาหาอะไรที่มาจากธรรมชาติให้มากที่สุด
วันนี้เราเลยมีวิธีทำครีมกันแดดด้วยตัวเองที่เป็นสารจากธรรมชาติให้มากที่สุดมาบอกกัน

ใช้ส่วนผสมแค่ 3 อย่าง หาซื้อง่ายได้จากซุปเปอร์มาร์เก็ทใกล้บ้านเรา ไม่ต้องซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ด้วย
ส่วนผสม 3   อย่างที่ว่านั่นก็คือ

1) น้ำมันมะพร้าว : วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าว มีสารโทโคไทรอีนอล ซึ่งเป็นรูปของวิตามินอีที่มีคุณภาพสูงกว่าสารโทโคเฟอรอลซึ่งอยู่นวิตามินอี ทั่วไป โดยเฉพาะที่มีอยู่ในเครื่องสำอางรักษาผิวถึง 40-50 เท่า ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า และ กระ อนุมูลอิสระ เป็นตัวการอันหนึ่งของการเกิดฝ้า (รอยดำคล้ำหรือปนสีน้ำตาลอ่อน) และกระ วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่ทำลายอนุมูลอิสระเหล่านี้



2) น้ำมันมะกอก  :  มีวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอก ช่วยในการปกป้องหนังกำพร้า ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ช่วยการป้องกันโรคผิวหนัง และลดริ้วรอยเหี่ยวย่น นอกจากนี้  น้ำมันมะกอกสามารถใช้แต้มสิวฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย





3) แป้งฝุ่นทาหน้าของพอนด์ส เลือกที่มีส่วนประกอปที่มี ไทเทเนียมไดออกไซด์ กับ ซิงค์ออกไซด์ เพราะส่วนประกอบทั้งสองนี้คือตัวกันแดดที่สะท้อนแสงแดดทั้งยูวีเอ และยูวีบี





นำส่วนประกอปทั้วหมดนี้ในปริมาณที่เท่าๆกันผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว  แบ้วก็จะเก็บใส่ขวดหรือตะเป็นกระปุกก็แล้วแต่เพื่อนๆชอบ

เนื่องจากเราไม่ได้ใส่สารกันยบูดเป็ส่วนประกอบ แนะนำว่าให้ใช้ให้หมดภายใน 3 เดือนจะดีกว่านะคะ

No comments:

Post a Comment